5 ขั้นตอนในการเคลมประกันบ้านและอาคารจากเหตุแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่มันก็เป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านหรืออาคารนั้นอาจสร้างภาระหนักให้กับเจ้าของ แต่หากคุณมีประกันภัยที่ครอบคลุมเหตุแผ่นดินไหว การเคลมประกันจะช่วยบรรเทาความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราขอแนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญ ที่คุณควรรู้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และต้องการดำเนินการเคลมประกันให้ได้ผลเร็วที่สุด

1. ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย

ขั้นแรกก่อนเริ่มกระบวนการเคลม คือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากรมธรรม์ของคุณครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว

• ตรวจสอบเงื่อนไข และความคุ้มครอง: อ่านรายละเอียดในกรมธรรม์อย่างละเอียดว่าคุ้มครองเหตุแผ่นดินไหวหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบวงเงินคุ้มครองที่ระบุไว้

• ข้อยกเว้นในกรมธรรม์: ตรวจสอบเงื่อนไขที่อาจยกเว้นความรับผิดชอบ เช่น ความเสียหายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอาคาร หรือความประมาทในการบำรุงรักษา

• สอบถามเพิ่มเติม: หากไม่มั่นใจในเงื่อนไขหรือรายละเอียด สามารถสอบถามตัวแทนประกันภัยหรือนำกรมธรรม์มาให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบ

การตรวจสอบเงื่อนไขอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการ และลดความล่าช้าในการเคลม

2. แจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยทราบ

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และมีความเสียหายเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือการแจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อเริ่มกระบวนการเคลม

• ช่องทางการแจ้งเหตุ: บริษัทประกันภัยมักมีช่องทางให้ติดต่อหลากหลาย เช่น Call Center, แอปพลิเคชัน, เว็บไซต์ หรืออีเมล

• ข้อมูลสำคัญที่ต้องแจ้ง: ระบุวัน และเวลาเกิดเหตุ ที่ตั้งของทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และรายละเอียดความเสียหาย เช่น ผนังร้าว เพดานหลุด หรือทรัพย์สินในบ้านเสียหาย

การแจ้งเหตุเร็วช่วยให้บริษัทสามารถเริ่มต้นการตรวจสอบ และดำเนินการเคลมได้รวดเร็วขึ้น

3. เก็บหลักฐานความเสียหาย

การเก็บหลักฐานอย่างครบถ้วนจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และลดโอกาสที่การเคลมจะถูกปฏิเสธ

• ถ่ายภาพ และวิดีโอ: บันทึกความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น รอยร้าวบนผนัง ฝ้าเพดานที่หลุด หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหาย

• จัดทำรายการทรัพย์สิน: ทำรายการทรัพย์สินที่เสียหาย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของมีค่าอื่น ๆ

• ใบเสร็จ และเอกสารการซื้อ: หากมีใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อสินค้า จะช่วยยืนยันมูลค่าความเสียหาย และทำให้การเคลมง่ายขึ้น

หลักฐานที่ชัดเจนจะช่วยสนับสนุนคำร้องขอเคลมของคุณ และช่วยให้บริษัทประกันภัยพิจารณาได้รวดเร็วขึ้น

4. ยื่นคำร้องขอเคลมประกัน

เมื่อเก็บหลักฐานครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นคำร้องขอเคลมประกัน

• กรอกแบบฟอร์มเคลม: ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์ของบริษัทหรือกรอกผ่านแอปพลิเคชัน

• แนบเอกสารสำคัญ: เอกสารที่มักต้องใช้ ได้แก่

  • สำเนากรมธรรม์ประกันภัย

  • สำเนาบัตรประชาชน

  • ภาพถ่ายความเสียหาย

  • หลักฐานการซื้อสินค้าหรือใบเสร็จ (ถ้ามี)

  • ติดตามสถานะ: หลังยื่นคำร้อง คอยติดตามผลการพิจารณา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทประกันภัย

การเตรียมเอกสารให้ครบ และถูกต้องตั้งแต่แรก จะช่วยลดเวลา และลดโอกาสการแก้ไขเอกสารในภายหลัง

5. รอการพิจารณาและรับเงินเคลม

หลังจากยื่นคำร้องแล้ว บริษัทประกันภัยจะทำการตรวจสอบความเสียหาย โดยอาจส่งเจ้าหน้าที่หรือผู้ประเมินอิสระเข้าตรวจสอบ

• การประเมินความเสียหาย: บริษัทอาจติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือเข้าตรวจสอบสถานที่

• รับผลการพิจารณา: หากการเคลมได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับค่าชดเชยตามเงื่อนไขกรมธรรม์

• กรณีถูกปฏิเสธการเคลม: คุณสามารถยื่นอุทธรณ์กับบริษัทประกันภัย หรือร้องเรียนต่อสำนักงาน คปภ. เพื่อให้พิจารณาใหม่

สรุป

การเคลมประกันภัยจากเหตุแผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณดำเนินการตาม 5 ขั้นตอนนี้อย่างเป็นระบบ การตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์ การเก็บหลักฐานที่ครบถ้วน และการสื่อสารกับบริษัทประกันภัย จะช่วยให้กระบวนการเคลมสำเร็จอย่างรวดเร็ว

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• เตรียมเอกสาร และข้อมูลให้พร้อมก่อนยื่นคำร้อง

• เลือกกรมธรรม์ที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เพื่อความมั่นใจในอนาคต

  
  

อ่านเพิ่มเติม:

• The Standard: แผ่นดินไหว และผลกระทบ

• ประชาชาติธุรกิจ: เคลมประกันแผ่นดินไหว

• ฐานเศรษฐกิจ: วางแผนการเงิน และความคุ้มครอง

---

เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ)

FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)

ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น