top of page
pexels-vlada-karpovich-7433822.jpg

การคำนวณเงินสำรองค่าสินไหมทดแทน และเงินสำรองเบี้ยประกันภัย

บริษัทของเราให้บริการเฉพาะทางแก่บริษัทประกันวินาศภัย ในการคำนวณเงินสำรองสำหรับค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้รับรายงาน (Incurred But Not Reported: IBNR) และเงินสำรองค่าสินไหม (Claim Reserve) รวมถึงการคํานวณเงินกองทุนสําหรับความเสี่ยงด้านประกันภัย ตามแบบฟอร์มที่ 4 (RBC form 4)


การคำนวณ IBNR และ Claim Reserve เป็นการประมาณค่าใช้จ่ายจากเคลมในอนาคตที่บริษัทประกันภัยอาจเผชิญ ส่วน Premium Reserve เป็นการประมาณจำนวนเบี้ยประกันที่บริษัทจะได้รับในอนาคตจากกรมธรรม์ที่ออกไปแล้ว การคำนวณทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบ และลงนามรับรองโดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Certified Actuary) โดยครอบคลุมทั้งในส่วนก่อนการประกันภัยต่อ และหลังการประกันภัยต่อ ช่วยให้บริษัทมั่นใจได้ว่ามีทรัพยากรทางการเงินเพียงพอสำหรับการรับมือกับการเรียกร้องค่าสินไหม และการรับรู้เบี้ยประกันในอนาคต บริษัทของเรามีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการคำนวณเงินสำรองค่าสินไหม และเงินสำรองเบี้ยประกันอย่างแม่นยำ และเชื่อถือได้ ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจด้านการวางแผนการเงิน และกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม


การศึกษาค่าใช้จ่าย 
บริษัทของเรามีบริการที่โดดเด่นในการศึกษา และการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทประกันภัย โดยเฉพาะในธุรกิจวินาศภัย ค่าใช้จ่ายสำคัญประกอบด้วย 

  1. ค่าใช้จ่ายในการจัดการสินไหมทดแทนที่สามารถจัดสรรได้ (Unallocated Loss Adjustment Expenses: ULAE) 

  2. ค่าใช้จ่ายในการรักษากรมธรรม์ (Maintenance Expenses: ME) 

  3. ค่าใช้จ่ายในการจัดสรรค่าสินไหมทดแทน (Claim Handling Expense: CHE) 


การสมมติฐานค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีความสำคัญสำหรับบริษัทประกันภัยใช้ในกระบวนการการทดสอบกระแสเงินสด (Cash Flow Testing) การทดสอบกำไร (Profit Testing)  การทดสอบความเพียงพอของทุน (Capital Adequacy Testing) ฯลฯ บริษัทของเรามีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่จำเป็นในการให้สมมติฐานค่าใช้จ่ายที่เชื่อถือได้แก่ลูกค้าของเรา ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจในการวางแผนทางการเงินได้อย่างมั่นใจ และมีประสิทธิภาพ

 

ประกันชีวิต

ประกันวินาศภัย

การดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS 17
ให้คำปรึกษา | ซอฟต์แวร์ | วิธีการ

bottom of page